ความต้องการของโภชนะของแมว
ความต้องการของโภชนะของแมว
แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ
สรีรวิทยาของพวกมันมีการพัฒนาในการย่อยเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพและในทางตรงกันข้ามพวกมันมีปัญหาในการย่อยพืช
ในขณะที่สัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ แมวจะต้องการโปรตีนประมาณ 20% ในอาหารของมันแมวจะผิดปกติถ้าขาดอาร์จินีกรดอะมิโนและการรับประทานอาหารที่ขาดอาร์จินีเป็นสาเหตุของอาการน้ำหนักลดและอาจถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
อีกทั้งคุณสมบัติที่ผิดปกติคือการที่แมวไม่สามารถผลิตทอรีนมีทอรีน
การขาดก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพในจอประสาทตาของแมวเสื่อมทำให้ตาบอดถาวร
แมวมีแนวโน้มที่จะกินเหยื่อของพวกมันทั้งหมดเพราะจะได้รับแร่ธาตุโดยการย่อยกระดูกสัตว์
ดังนั้นอาหารที่มีเฉพาะของเนื้อสัตว์อาจก่อให้เกิดการขาดแคลเซียม
โปรตีน
มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อปลาและถั่วต่าง ๆ
แมวนำประโยชน์ของโปรตีนแต่ละชนิดไปใช้ได้มากน้อยต่างกัน โปรตีนมีความสำคัญต่อแมวเกี่ยวกับการเจริญเติบโต
การสร้างแอนติบอดีสำหรับป้องกันเชื้อโรค ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำให้ขนงอก
ตลอดจนสร้างเอนไซน์ต่าง ๆ เป็นต้น ลูกแมวที่กำลังเติบโตต้องการโปรตีนไม่น้อยกว่า 30 % ถ้าแมวได้รับอาหารที่มีโปรตีนต่ำกว่า 18 %
คาร์โบไฮเดรต
แมวต้องการคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีอยู่ในน้ำตาล
แป้งและข้าวต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเจริญเติบโต การผลิตน้ำนมและการทำงาน
ความต้องการพลังงานของแมวขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแมว เช่น แมวที่เคลื่อนไหว
ทำงานวิ่งเล่น ย่อมต้องการพลังงานมากกว่าแมวที่นอนอยู่เฉยๆ
ไขมัน
แมวต้องการไขมันสำหรับพลังงานหรือแคลอรีประมาณ 8 % ไขมันให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต 2 เท่าและไขมันยังมีกรดไขมันซึ่งมีความสำคัญต่อโภชนาการและการเจริญตามปกติของแมว
แมวขาดกรดไขมันจะทำให้ผิวหนังแห้งและเจริญเติบโตช้า
ถ้ามีไม่เพียงพอก่อให้เกิดอาการของโรคขึ้น นอกจากนี้ไขมันยังให้พลังงานเพื่อการเจริญเติบโตตลอดจนการต่อสู้ต่อความเครียด
ความหนาว และถ้าขาดมากเกินไปอาจจะทำให้ตายได้
วิตามิน
วิตามิน หมายถึง
สารจำนวนน้อยที่สำคัญต่อชีวิต
ดังนั้นการให้วิตามินมากเกินไปจึงไม่จำเป็นและมีโทษด้วยวิตามินมีอยู่หลายชนิด
ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
อาหารแต่ละอย่างจะให้วิตามินแต่ละชนิดมากน้อยต่างกัน เช่น วิตามินเอ ช่วยในการต้านทานโรค มีในเนื้อสัตว์
ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา วิตามินบี
ควบคุมความสมบูรณ์ ให้กับผิวหนัง ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
ป้องกันโรคทางประสาท มีในไข่แดง นม ตับ
วิตามินซี
ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังและขน แก้โรคลักปิดลักเปิด
มีในพืชผักผลไม้ วิตามินดี
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและกระดูก มีในน้ำมันตับปลา
วิตามินดีที่มีมากและเพียงพอจะช่วยทำให้ธาตุแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสที่ไม่ได้อัตราส่วนนั้นถูกนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น วิตามินอี มีความจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต
การสืบพันธุ์และการผลิตน้ำนม ดังนั้นจึงควรให้วิตามินเหล่านี้แก่แมว
โดยเฉพาะลูกแมว
แร่ธาตุ
มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ช่วยในการสร้างกระดูก ฟัน
และเลือด ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อาหารแต่ละอย่างก็ให้แร่ธาตุแต่ละชนิดมากน้อยต่างกัน
แร่ธาตุที่สำคัญ คือ แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรง
ถ้าขาดไปจะทำให้แมวเป็นโรคกระดูกอ่อนโค้งงอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น