การให้อาหารแมว

การให้อาหารแมว

อาหารลูกแมว

การให้อาหารแมวในแต่ละช่วงอายุ ลูกแมว แบ่งออกเป็น 2 ระยะ
        ระยะ 4 เดือนแรก เป็นช่วงที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงและระบบทางเดินอาหารมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลง เป็นช่วงของการเปลี่ยนอาหารมาเป็นอาหารเม็ด เริ่มสูญเสียความสามารถในการย่อยน้ำตาลแลกโตส (Lactose) จนไม่สามารถย่อยได้ ต้องการอาหารที่มีพลังงานสูง
        ระยะ 4 ถึง 12 เดือน อัตราการเจริญเติบโตช้าลง โดยจะเจริญเติบโตเต็มที่เป็นแมวโตเต็มวัยเมื่ออายุ 12 เดือน และเมื่อแมวโตเต็มที่มักจะมีน้ำหนักตัว 40-50 เท่าของน้ำหนักแรกเกิด
การให้อาหารสำหรับลูกแมว ควรเริ่มให้เมื่อลูกแมวน้อยอายุครบ 2 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงที่ลูกแมวหย่านมแม่ การให้อาหารควรเริ่มในปริมาณน้อยๆ วันละ 3 มื้อ อาหารของลูกแมวหากเป็นอาหารแห้งต้องมีภาชนะใส่น้ำวางไว้ใกล้ๆ หรืออาจนำอาหารเม็ดคลุกผสมกับน้ำซุปเพื่อให้อาหารเม็ดนิ่มขึ้น เมื่อลูกแมวคุ้นเคยแล้วหรือเริ่มชินให้ค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ดเพียงอย่างเดียว



อาหารแมวโตหรือแมวรุ่น

แมวเมื่อเริ่มโตเต็มวัยต้องค่อยๆลดอาหารลง จนเหลือเพียง 2 มื้อ คือมื้อเช้าและมื้อเย็น อาหารสำหรับแมวโต อาจให้เป็นอาหารเม็ด อาหารเปียกหรืออาหารกระป๋อง และอาหารสดที่ผู้เลี้ยงปรุงเอง เช่น ปลาทูทอดคลุกกับข้าว ข้อควรระวังสำหรับการให้อาหารแมวก็คือไม่ควรเป็นอาหารซ้ำๆที่มีรสเค็ม และควรปรับเปลี่ยนอาหารให้แมวเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้ครบถ้วน



อาหารแมวแก่

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถือว่ามีอายุยืนมากกว่า 10 ปี โดยทั่วไปช่วงอายุของแมวเหมียวเฉลี่ย 10-15 ปี อาหารสำหรับแมวแก่ต้องย่อยง่าย ให้กินในปริมาณน้อย เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และแมวต้องการพลังงานน้อยร่างกายไม่ต้องการอาหารมากนัก อาหารที่ดีควรให้เป็นอาหารเม็ดและอาหารเปียกหรืออาหารปรุงเองสลับกันไป เพราะอาหารแต่ละประเภทมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน เช่นการให้แมวแก่กินอาหารเม็ดนอกจากมีประโยชน์ต่อร่างกาย

อาหารแมวท้อง


การให้อาหารแมว นอกจากอาหารสำหรับแมวในแต่ละช่วงวัยจะมีความสำคัญแล้ว อาหารสำหรับแมวท้องก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะอาหารที่ใช้เลี้ยงแมวท้องต้องมีโปรตีนสูง มีไขมันไม่มากและที่สำคัญอย่าให้อาหารบำรุงในช่วงตั้งท้องจนทำให้แมวอ้วน จะทำให้แมวคลอดยาก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความต้องการของแมวในแต่ละช่วงอายุ

สูตรอาหารแมว